เป้าหมาย (Understanding Goal)

Week15


การปฏิบัติภารกิจสัปดาห์ที่ 15 ตั้งแต่วันที่ 25-29 กรกฎาคม 2559

วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม 2559

       

เป็นสัปดาห์สุดท้ายของ Quarter1 นักเรียนต้องสะสางงานค้างทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย บางคนมีงานค้างมากกว่า 10 ชิ้น ก็ต้องค่อยๆทำให้เสร็จไปทีละงาน ต้องลดเวลาเล่นลงบ้าง อย่างน้อยก็เพื่อให้เขาได้รู้จักการแบ่งเวลาและการมีความรับผิดชอบ หลายคนก็ดูไม่พอใจที่จะไม่ได้เล่นแต่เขาก็จะโทษใครไม่ได้ เขาจะต้องได้เรียนรู้ ในสัปดาห์นี้บทบาทหน้าที่การสอนเนื้อหาจึงลดลงแต่จะมาร่วมกันทำกิจกรรมเตรียมตัวถ่ายทอดความรู้หรือกิจกรรมเปิดบ้านซึ่งวันนี้ ป.6 ก็ประชุมกันเป็นบรรยากาศที่ดีที่ทุกคนช่วยกันออกความคิดเห็นในวงประชุมและสามารถสรุปการนำเสนอกิจกรรมออกมาได้ 3 อย่างได้แก่ การแสดงละคร การทำการทดลอง และสาธิตการทำเส้นขนมจีน ซึ่งได้เริ่มเตรียมงานตั้งแต่วันนี้ โดยพวกเขาออกแบบรูปแบบของงานในแต่ละส่วนด้วยตัวเองแล้วค่อยปรึกษาครู เขาสามารถทำงานแบบที่ผู้ใหญ่ทำได้ ถ้าลองมองดูให้ดีก็เหมือนเป็นการฝึกทักษะการทำงานเมื่อเขามีแรงกายและแรงสมองที่จะสามารถทำได้ก็ควรจะให้ทำตามศักยภาพส่วนที่เหลือคือการฝึกให้มีความสามารถด้านต่างๆเพิ่มขึ้นเช่น ด้านการควบคุมอารมณ์ การมีเหตุผล ซึ่งแม้ความคิดพวกเขาจะโตเกินวัยแต่ถ้าจิตใจที่สามารถควบคุมได้ก็จะไม่ทำให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ถ้ามัวเดินตามโลกแล้วตามไม่ทัน ก็มองตามตัวเองให้ทันแล้วรู้เท่าทันความคิดให้ได้


วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม 2559

          การสังเกตกิจกรรมจิตศึกษาวันนี้ เป็นกิจกรรมการใคร่ครวญตัวเองว่าถ้าเป็นต้นไม้จะเป็นต้นอะไรการทำแบบนี้ก็ทำให้เห็นมุมมองความคิด แต่คำตอบที่ได้ต้องเป็นคำตอบที่ถึงใจ เป็นคำตอบที่ถ่ายทอดออกมาจากความคิดของเขาเองจริงๆซึ่งบางคนก็ไม่ได้ตอบสละสลวยแต่ก็สื่อความหมาย แค่การตอบคำถามแค่นี้ก็บ่งบอกตัวตนของคนที่ตอบได้มากเลยทีเดียว เด็กหลายคนบอกว่าอยากเป็นต้นไผ่ แต่มี 2 คน ที่บอกว่าต้นไผ่เหมือนตัวเขาอย่างไรได้ให้เห็นมุมมองความคิด คนแรก “ต้นไผ่จะออกดอกแค่ครั้งเดียวในชีวิตและดอกจะมีกลิ่นหอม เมื่อมีดอกแล้วก็จะตายไป ก็เหมือนกับเราที่สร้างประโยชน์ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่”คนที่ 2 ต้นไผ่จะอยู่รวมกันหลายๆต้นก็เหมือนกับหนูที่ไม่ชอบอยู่คนเดียว เราต้องอยู่ด้วยกันและมีความสามัคคีกัน”สิ่งที่เขาคิดและพูดจะทำให้เห็นชัดด้วยการแสดงออกต่อบุคคลอื่น ส่วนเหตุการณ์ที่รู้สึกไม่ประสบผลสำเร็จที่สุดในวันนี้ คือการทำ Body scan แบบนั่ง ซึ่งต้องอ่านสคริปต์ให้นักเรียนทำตาม มีหลายอย่างที่เป็นข้อบกพร่อง เนื้อหาสคริปต์อาจจะดีแต่เราไม่ได้ท่องให้ขึ้นใจก็เลยเหมือนไปนั่งอ่านสคริปต์ให้เด็กทำตาม เมื่อเขาไม่ทำก็ไม่เกิดผลตอบรับที่ดีแต่อย่างใด ทั้งต้องควบคุมน้ำเสียง ควบคุมเด็กพะวงอยู่กับเนื้อหาในสคริปต์ อ่านไปเด็กก็เล่นกันไปแล้วในตอนท้ายเมื่ออ่านจบกิจกรรมคือจบลืมมองดูเวลาว่าทำได้พอดีกับเวลา15-20 นาทีหรือเปล่า แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือมัวแต่อาจสคริปต์ ลืมทิ้งช่วงเพื่อให้พอดีกับเวลา เด็กก็ไม่นิ่งก็เลยทำกิจกรรมถึงขั้นปลุกรวดเดียวจบ พอตอนปลุกมีการปรบมือห้องอื่นยังไม่ปลุกก็เสียงดังไม่ได้ สถานการณ์ตอนนั้นไม่รู้จะทำอะไร แต่คุณครูประจำชั้นก็มีกิจกรรมน่าสนใจมาดึงพวกเขาให้รู้ตัว เป็นเทคนิคเก็บเด็กที่ดีเลย โดยให้ยืนขึ้นแล้วหลับตาและทำตามคำสั่ง เช่น ก้าวเท้าซ้าย ก้าวเท้าขวา เดินหน้า ถอยหลัง คำสั่งนี้ทุกคนได้ยินเหมือนกันหมด แต่ทุกคนทำต่างออกไป พอลืมตาขึ้น บางคนไปอยู่มุมห้องกระจัดกระจายไปหมด ซึ่งคุณครูให้เรียนรู้ถึงการแปลงสารเมื่อรับสาร การตีความ การมีสติรู้คิดก่อนที่จะทำ



วันพุธที่ 27กรกฎาคม 2559
          
           กิจกรรมในวันนี้ก็ได้เรียนรู้นักเรียนไปอีกระดับหนึ่ง เห็นได้จากคำแนะนำบางอย่างสำหรับคนที่เหมือนไม่ค่อยอยากจะฟังแต่พอเอาเข้าจริงๆเขาก็นำคำแนะนำนั้นไปปฏิบัติ แต่เนื่องจากไม่ได้บอกไปจนหมด เราก็กะว่าจะพูดไปเพื่อให้เขาถามโต้ตอบแต่เมื่อเขาทำท่าทางเหมือนไม่สนใจก็ทำให้คิดว่าเขาคงเอาไปคิดต่อเอง ซึ่งเมื่อทำออกมางานก็จะออกมาเฉพาะส่วนที่เขาเข้าใจไปเอง ผลที่ได้ก็คือโดนตำหนิแทนที่จะเป็นคำชมและแทนที่เขาจะยอมรับเราแต่กลับต่อต้านแทน แต่อย่างว่า เด็กก็คือเด็ก เวลาเล่นสนุกก็ลืมแต่ตัวเรานั้นต้องเก็บรายละเอียดตัวเองให้ทันว่าจะใส่อะไรให้เขา จะแสดงอะไรออกมา


วันพฤหัสบดีที่  28  กรกฎาคม 2559
             
          ความงอกงาม ความเป็นต้นไม้ที่โตกว่าพร้อมที่จะเติบโตและสามารถปกป้องดูแลต้นไม้ที่เล็กกว่าวันนี้ทั้งวันพี่ป.6จะใช้เวลาอยู่กับน้องเป็นส่วนมากตั้งแต่กิจกรรมเปิดบ้านป.1และป.3 ซึ่งพี่ๆต้องไปให้กำลังใจน้องส่วนในตอนบ่ายเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ ซึ่งพี่ ป.6 ต้องจัดให้น้องซึ่งพวกเขาสามารถดูแลน้องได้และความสัมพันธ์พี่กับน้องก็เพิ่มขึ้น ทำให้พวกเขาได้มองเห็นตัวเอง ถ้าเขานำไปปรับปรุงก็จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง และทำให้นึกถึงคำพูดของอาจารย์มหา'ลัยท่านหนึ่งที่บอกว่า น้องเชื่อฟังรุ่นพี่มากกว่าครูซะอีก ก็เริ่มเห็นด้วยจริงๆหลังจากผ่านกิจกรรมนี้ วันนี้มีภารกิจสำคัญที่ตัวเองได้ทำอีกวันหนึ่ง การทำโยคะ ไม่รู้สึกตื่นเต้นแต่รู้สึกถึงการให้ความร่วมมือซึ่งในความรู้สึกคือผ่านมาสองเดือนแล้วแต่ยังไม่ได้รับการยอมรับจากพวกเขาแล้วสาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเรายังไม่ได้ให้อะไรเขาจริงๆ การทำโยคะผ่านไปด้วยความราบรื่น ตัวเองรู้สึกดีที่ได้ทำ แม้จะมีการสับสนท่าโยคะก็ต้องมาแก้คำพูดของตัวเอง นักเรียนก็จับผิดได้ดีเหมือนกัน และอีกปัญหาหนึ่งคือชอบปล่อยไก่ต่อหน้านักเรียน ถ้าเวลาแก้ต่างหน่อยนักเรียนก็จับได้เพราะทำไม่เนียน เรามีตัวตนของเรา เราอาจจะแสดงชัดเจนได้ในเรื่องที่เหมาะสม ทุกอย่างต้องปรับต้องเรียนรู้จากผู้ที่มาก่อน บางครั้งเราจะเอาสิ่งที่คิดว่าดีอยู่คนเดียวมาใช้อาจจะดูมั่นใจเกินไป ทุกอย่างต้องได้กลั่นกรอง วิถีต้องได้เรียนรู้ พฤติกรรมท้าทายของเด็กที่ท้าทายความเป็นครู แล้วจะใช้วิธีการใดให้นักเรียนอ่อนลงได้และยอมรับเราจากข้างในโดยใช้ความเป็นลำปลายมาศพัฒนา


วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม 2559

            สิ่งที่นักเรียนได้เตรียมและซ้อมกันทั้งสัปดาห์ ในวันนี้ได้เปิดให้ทุกคนได้ชม พวกเขาทำได้ดีแต่ก็มีบางคนที่ไม่ค่อยพอใจในสิ่งที่ตัวเองทำแต่ดูเหมือนพวกเขายังขาดความเป็นทีม การช่วยเหลือประคับประคองกันรับผิดชอบเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ก่อนจะทำความสะอาดตึกร่วมกันตั้งแต่ ป.1ถึง ป.6 นอกจากนี้ยังได้กินข้าวร่วมกันเนื่องในวันห่อข้าวประจำเดือน บางกลุ่มไม่ได้มีกับข้าวมานั่นหมายความว่าจะไม่ได้แชร์กับคนอื่นก็จะได้อิ่มเฉพาะตัวเอง
รวมทั้งวันนี้เป็นวันสุดท้ายใน Quarter 1เมื่อ big cleaning เสร็จ นักเรียนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ครูก็ประชุม เตรียมงานใน Quarter 2 สิ่งที่ได้เรียนรู้ การแชร์ในที่ประชุมเราต้องคิดเยอะ คำที่ฟังดูแล้วลื่นไหลกว่าแม้จะเป็นคำในด้านลบแต่จะเป็นผลตอบรับที่แปรผันตรงกับความรู้สึกของคนฟัง ให้สามารถฟังได้ จึงควรเพิ่มเติมการใช้คำพูด และเทคนิคดีๆวันนี้ในการเก็บเด็ก คือการเล่ารื่อง เรื่องเล่าที่ดี ผู้เล่าต้องได้สัมผัสจริง








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น